บริหารสภาพคล่อง

ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตหรือโอกาส ต่างก็เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนและไม่สามารถคาดเดาได้อย่างแม่นยำ ทำให้เมื่อเราพูดถึงเรื่องการวางแผนการเงินเมื่อไหร่ เรื่อง “การบริหารสภาพคล่อง” จึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับแรก ๆ เพราะถึงแม้เราจะวางแผนการเงินได้ดีมากแค่ไหน แต่ถ้าลืมจัดการด้านสภาพคล่อง ก็อาจทำให้แผนการเงินสะดุดและนำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ ในอนาคตได้ การทำความเข้าใจในการบริหารสภาพคล่องจึงเป็นสิ่งสำคัญ

เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะเข้าใจกันแล้วว่า ทำไมเราถึงควรมีเงินสดเผื่อสภาพคล่องไว้เสมอ ไม่ว่าจะเตรียมสภาพคล่องไว้เพื่อจับจ่ายใช้สอยในยามฉุกเฉิน หรือในกรณีอื่น ๆ ก็ตาม คำถามที่หลายคนสงสัยต่อมา คือ แล้วเราควรเก็บเงินสดสภาพคล่องไว้ที่ไหนดี ที่จะช่วยทำให้เงินเรามีโอกาสเติบโตได้มากที่สุด โดยไม่เสียสภาพคล่อง แถมก็ยังรักษาเงินต้นได้อย่างครบถ้วน โดยในบทความนี้จะไม่แนะนำการเก็บเงินสดไว้ในตู้เซฟที่บ้าน เพราะการเก็บด้วยวิธีดังกล่าวนี้ นอกจากเงินจะไม่เติบโตโดยไม่ได้รับดอกเบี้ยแล้ว ก็ยังมีความเสี่ยงที่อาจจะสูญหายได้อีกด้วย

หากใครเคยมีประสบการณ์ที่ผ่านช่วงวิกฤตมา จะเข้าใจเป็นอย่างดีว่าสภาพคล่องเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ในแง่มุมของผู้ประกอบธุรกิจ เงินสดเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการประคับประคองธุรกิจให้อยู่รอดต่อไปได้ และในขณะเดียวกันก็มักจะมีโอกาสที่ซ่อนอยู่ในวิกฤตเข้ามาบ่อยครั้ง ทำให้หากใครที่มีเงินทุน มีเงินสดสำรองเตรียมพร้อมไว้ ก็สามารถฟันฝ่าวิกฤตไปพร้อมกับคว้าโอกาสดี ๆ ได้

หากพูดถึง “กระแสเงินสด” ในแง่มุมของการวางแผนการเงิน อาจเปรียบเทียบได้เหมือนเป็นลมหายใจของแผนการเงินเลยก็ว่าได้ ถึงแม้ว่าเราจะมีการวางแผนการเงินมาดีเพียงใด แต่หากเราไม่ได้ดูแลกระแสเงินสดให้ดี จนเกิดภาวะเงินสดขาดมือ ไม่สามารถนำไปใช้จ่ายได้ รวมถึงมีการแสเงินสดติดลบไปเรื่อย ๆ ก็อาจจะทำให้เราถอนเงินเก็บออกมาใช้เรื่อย ๆ หรือแม้กระทั่งต้องไปหยิบยืม แน่นอนว่าก็จะมีภาระค่าใช้จ่ายในเรื่องของดอกเบี้ยตามมา

เมื่อเริ่มเห็นความสำคัญและเข้าใจถึงหลักการวางแผนการเงิน หลายคนอาจมีข้อสงสัยและไม่แน่ใจอยู่บ้างว่า เราควรเริ่มต้นที่จุดไหนหรือมีกระบวนการวางแผนการเงินอย่างไรถึงจะเหมาะสม เพราะทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนว่าจะมีความสำคัญเท่า ๆ กัน